วันพุธ

ให้เรามั่นคงรักษาภาระกิจที่ทรงประทานให้










คริสตจักรมีภาระกิจ ที่ทรงประทานให้แก่เรา อันเนื่องมาจากการทรงเรียกให้เรามีศุภนิมิตในการประกาศ ก่อตั้งคริสตจักร อันเป็น
น้ำพระทัยสมบูรณ์ ที่จะให้คนทั้งโลกได้ยินข่าวประเสริฐและกลับใจใหม่ มาติดตามพระเจ้าผู้ทรงพระคุณล้ำเลิศ ที่ทรงเปิดทางให้เรา เข้าสู่อาณาจักรของพระองค์ ทางพระกายของพระคริสต์ ที่ต้องทนทุกข์ทรมานและสิ้นพระชนม์เพื่อเรา และไม่มีหนทางอื่นอีกแล้วที่จะไปถึงพระเจ้าพระบิดาได้ นอกจากทางพระเยซูคริสต์เท่านั้น เป็นความหวังเดียวเท่านั้นของคนทั้งโลก ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วที่ข่าวประเสริฐจะไปถึงสุดขอบโลกได้ นอกจากการตั้งคริสตจักรที่มีรากฐานโดยพระคริสต์ ปกคลุมไปทั่วทั้งแผ่นดินโลกเท่านั้น และเป็นคริสตจักรที่พลังแห่งความตายไม่อาจมีชัยชนะได้

วันอังคาร

ที่มาของเธอ

 "ดูเถิด เหตุนี้เราจะเกลี้ยกล่อมนาง พานางเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร และปลอบใจนาง 
เราจะให้นางมีสวนองุ่นที่นั่น กระทำให้หุบเขาอาโคร์ เป็นประตูแห่งความหวัง แล้วนางจะตอบอย่างสมัยเมื่อนาง ยังสาวอยู่ ดังในสมัยเมื่อนางออกมาจากแผ่นดินอียิปต์" 
 "พระเจ้าตรัสว่า ในวันนั้นเจ้าจะเรียกเราว่า 'สามีของฉัน' เจ้าจะไม่เรียกเราว่า 'พระบาอัลของฉัน' อีกต่อไป 
เพราะว่าเราจะเอาชื่อพวกพระบาอัลออกเสียจากปากของนาง นางจะไม่เรียกชื่อนี้อีกต่อไป 
ในครั้งนั้นเพื่อเขา เราจะกระทำพันธสัญญากับบรรดาสัตว์ป่าทุ่ง บรรดานกในอากาศ และบรรดาสัตว์เลื้อยคลาน บนแผ่นดิน เราจะทำลายคันธนู ดาบและสงครามเสียจากแผ่นดิน และเราจะกระทำให้เขานอนลงอย่างปลอดภัย 
 เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราเป็นนิตย์ เออ เราจะหมั้นเจ้าไว้ด้วยความชอบธรรม ความยุติธรรม ความรักมั่นคงและ ความกรุณา 
 เราจะหมั้นเจ้าไว้สำหรับเราด้วยความสัตย์ซื่อ และเจ้าจะรู้จักพระเจ้า 

พระเจ้าตรัสว่า "ในวันนั้น เราจะตอบฟ้าสวรรค์ และฟ้าสวรรค์จะตอบพิภพ 

และพิภพจะตอบข้าว เหล้าองุ่นและน้ำมัน สิ่งเหล่านี้จะตอบยิสเรเอล

โฮเชยา2:14-22

วันเสาร์

พระเจ้าทรงปีติยินดีในเจ้า และแผ่นดินของเจ้าจะแต่งงาน

เพื่อเห็นแก่ศิโยน ข้าพเจ้าจะไม่ระงับเสียง และเพื่อเห็นแก่เยรูซาเล็มข้าพเจ้าจะไม่นิ่งเฉยอยู่จนกว่าการช่วยกู้กรุงนี้จะ ออกไปอย่างความสุกใส และความรอดของกรุงนี้อย่างคบเพลิงที่ลุกอยู่ 
บรรดาประชาชาติจะเห็นการช่วยกู้เจ้า และพระราชาทั้งหลายเห็นศักดิ์ศรีของเจ้า และเขาจะเรียกเจ้าด้วยชื่อใหม่ ซึ่ง พระโอษฐ์ของพระเจ้าจะประทาน 
เจ้าจะเป็นมงกุฎงามในพระหัตถ์ของพระเจ้า และเป็นราชมงกุฎในพระหัตถ์แห่งพระเจ้าของเจ้า 
เขาจะไม่ขนานนามเจ้าอีกว่า ถูกทอดทิ้ง และเขาจะไม่เรียกแผ่นดินของเจ้าอีกว่า ซึ่งร้างเปล่าแต่เขาจะเรียกเจ้าว่า ความปีติยินดีของเราอยู่ในเธอ และเรียกแผ่นดินของเจ้าว่า สมรสแล้ว
เพราะพระเจ้าทรงปีติยินดีในเจ้า และแผ่นดิน ของเจ้าจะแต่งงาน 
เพราะชายหนุ่มแต่งงานกับหญิงพรหมจารีฉันใด บุตรชายทั้งหลายของเจ้าจะแต่งกับเจ้าฉันนั้น
และเจ้าบ่าวเปรมปรีดิ์ เพราะเจ้าสาวฉันใด พระเจ้าของเจ้าจะเปรมปรีดิ์เพราะเจ้าฉันนั้น 

อิสยาห์ 62


ผ้าป่านเนื้อละเอียดใสบริสุทธิ์

ขอให้เราทั้งหลายร่าเริงยินดีและเต้นโลดถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะถึงเวลามงคลสมรสของพระเมษโปดกแล้ว และเจ้าสาวของพระองค์ได้เตรียมพร้อมแล้ว"

ทรงโปรดให้เจ้าสาวสวมผ้าป่านเนื้อละเอียดใสบริสุทธิ์ พราะผ้าป่านเนื้อดีนั้นได้แก่ การประพฤติอันชอบธรรมของพวกธรรมิกชน"

และทูตสวรรค์องค์นั้นสั่งข้าพเจ้าว่า "จงเขียนไว้เถิดว่า ความเจริญสุขมีแก่คนทั้งหลาย ที่ได้รับเชิญมาในการมงคลสมรสของพระเมษโปดก" และท่านบอกข้าพเจ้าว่า "ถ้อยคำเหล่านั้นเป็นพระวจนะแท้ของพระเจ้า"

สภาพความเป็นจริงของเรา

สภาพความเป็นจริงของธรรมิกชน คือเป็นคนชอบธรรม ที่ยังต้องการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความชอบธรรมโดยพฤตินัยอยู่ทุกวัน เรายังไม่ถึงความไพบูลย์ แต่เราปรารถนาไปถึงตรงนั้น



พระเยซูคริสต์ทรงชี้ให้เห็นชัดว่า
"บุคคลผู้ใด รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา
"บุคคลผู้ใดโศกเศร้า ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับการทรงปลอบประโลม
"บุคคลผู้ใดมีใจอ่อนโยน ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับแผ่นดินโลกเป็นมรดก
"บุคคลผู้ใดหิวกระหาย ความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงให้อิ่มบริบูรณ์
"บุคคลผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้รับพระกรุณาตอบ
"บุคคลผู้ใดมีใจบริสุทธิ์ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าเขาจะได้เห็นพระเจ้า
"บุคคลผู้ใดสร้างสันติ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเรียกเขาว่าเป็นบุตร
"บุคคลผู้ใดต้องถูกข่มเหงเพราะเหตุความชอบธรรม ผู้นั้นเป็นสุข เพราะว่าแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา
"เมื่อเขาจะติเตียนข่มเหง และนินทาว่าร้ายท่านทั้งหลายเป็นความเท็จเพราะเรา ท่านก็เป็นสุข
จงชื่นชมยินดี เพราะว่าบำเหน็จของท่านมีบริบูรณ์ในสวรรค์ เพราะเขาได้ข่มเหงผู้เผยพระวจนะ ทั้งหลาย ที่อยู่ก่อนท่านเหมือนกัน

ความงดงามอันหลากหลายและความล้ำค่าของนคร

กำแพงนครนั้นก่อด้วยแก้วมณีโชติ
และนครนั้นสร้างด้วยทองคำเนื้อบริสุทธิ์สุกใสดุจแก้ว 
ฐานของกำแพงนครนั้นประดับด้วยเพชรนิลจินดาทุกชนิด
ฐานที่หนึ่งเป็นแก้วมณีโชติ ที่สองไพฑูรย์ ที่สามโมรา ที่สี่มรกต 
ที่ห้าโกเมน ที่หกทับทิม ที่เจ็ดบุษราคำน้ำแก่ ที่แปดเพทาย
ที่เก้าบุษราคำน้ำอ่อน ที่สิบหยก ที่สิบเอ็ดนิล ที่สิบสองเป็นพลอยสีม่วง 
ประตูทั้งสิบสองประตูนั้นทำด้วยไข่มุกสิบสองเม็ด ประตูละเม็ด
และถนนในนครนั้นเป็นทองคำบริสุทธิ์ ใสราวกับแก้ว 

มาตรฐานแห่งนคร

ทูตสวรรค์องค์ที่พูดกับข้าพเจ้านั้นถือไม้วัดทองคำเพื่อจะวัดนคร และวัดประตู และกำแพงของนครนั้น
นครนั้นเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสกว้างยาวเท่ากัน และท่านเอาไม้วัดนครนั้นได้สองพันกว่ากิโลเมตร
กว้างยาวและสูงเท่ากัน 
ท่านวัดกำแพงนครนั้นได้ร้อยสี่สิบสี่ศอกตามมาตราวัดของมนุษย์
ซึ่งเหมือนกันกับของทูตสวรรค์ 

วันศุกร์

ความเกี่ยวข้อง นครเยรูซาเล็มใหม่กับเจ้าสาวของพระคริสต์

ความล้ำค่าและสง่าราศี

นครนั้นประกอบด้วยพระสิริของพระเจ้า ใสสว่างดุจแก้วมณีอันหาค่ามิได้ เช่นเดียวกับแก้วมณีโชติอันสุกใสและเป็นผลึก
ความเข้มแข็งมั่นคง ความรอบด้าน และความคล่องตัว

นครนั้นมีกำแพงสูงใหญ่ มีประตูสิบสองประตู
เอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละประตู
และที่ประตูมีทูตสวรรค์สิบสององค์
และที่ประตูนั้นจารึกเป็นชื่อเผ่าของพวกอิสราเอลสิบสองเผ่า

ทางด้านตะวันออกมีสามประตู ทางด้านเหนือมีสามประตู ทางด้านใต้มีสามประตูและทางด้านตะวันตกมีสามประตู
รากฐานแห่งนคร

และกำแพงนครนั้นมีฐานศิลาสิบสองฐาน และที่ฐานศิลานั้นจารึกชื่ออัครทูตสิบสองคนของพระเมษโปดก

ภาพนิมิตของเจ้าสาวในวิวรณ์-Revelation of The Bridal



ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในบรรดาทูตสวรรค์เจ็ดองค์ ที่ถือขันเจ็ดใบอันเต็มด้วยภัยพิบัติสุดท้ายทั้งเจ็ดประการนั้น
ได้พูดกับข้าพเจ้าว่า "เชิญมานี่เถิด ข้าพเจ้าจะให้ท่านดูเจ้าสาวที่เป็นมเหสีของพระเมษโปดก"

ท่านได้นำข้าพเจ้าโดยพระวิญญาณขึ้นไปบนภูเขาสูงใหญ่
และได้สำแดงให้ข้าพเจ้าเห็นนครบริสุทธิ์ คือเยรูซาเล็ม
ซึ่งกำลังลอยลงมาจากสวรรค์และจากพระเจ้า
วิวรณ์ 19 Rev.19